เปลี่ยนแขนโตให้เรียวงาม

สาวๆ คนไหนที่มีแขนโตหรือกล้ามโตตอนนี้สบายใจกันได้แล้ว เพราะเรามีท่าบริหารดีๆ ปฏิบัติกันได้ง่ายๆ มาฝาก เพียงแค่คุณทำให้ได้วันละเพียง 7 นาที เท่านั้น คุณก็จะเปลี่ยนแขนโตให้เป็นแขนที่เรียวงามได้กันแล้ว

อุปกรณ์ที่ต้องใช้ ดัมบ์เบลล์หรือถ้าไม่มีอาจจะเปลี่ยนมาใช้เป็นขวดเปล่าใส่น้ำที่มีน้ำหนักประมาณ 1-4 กิโลกรัม 2 ขวด และนาฬิกาจับเวลา

วิธีปฏิบัติ อันดับแรกควรเริ่มด้วยการอบอุ่นร่างกายเบาๆ เพื่อให้ไปช่วยกระตุ้นการเต้นของหัวใจให้ทำงานได้อย่างสม่ำเสมอเสียก่อนโดยใช้เวลาสัก 2-3 นาที จะใช้วิธีการเดินเร็ว จ็อกกิ้งเบาๆ หรือจะกระโดดเชือกก็ได้ตามความชอบของแต่ละคน หลังจากได้เวลาแล้วให้ออกกำลังกายตามขั้นตอนที่กำหนดไว้จนครบทุกขั้นตอน แต่ละท่าต้องทำติดต่อกันจนครบตามเวลาที่กำหนด หลังจากนั้นให้ทำการยืดกล้ามเนื้อแบบเบาๆ อีกสักประมาณ 5 นาที

ท่าที่ 1 ย่อแล้วยก

ท่านี้จะช่วยกระชับ ก้น สะโพก เอ็นร้อยหวาย และกล้ามเนื้อต้นแขน ใช้เวลาในการปฏิบัติ 3 นาที

อันดับแรกให้ยืนตัวตรง แยกขาออกให้พอดีกับช่วงสะโพก แขนทั้งสองข้างปล่อยลงมาแนบกับลำตัว มือทั้งสองข้างถือดัมบ์เบลล์ไว้หันฝ่ามือทั้งสองข้างเข้าหาตัว แล้วทำการทรุดตัวลงนั่งยอง ๆ จนต้นขาทั้งสองข้างขนานกับพื้น ยืดอกและลำตัวส่วนบนให้ตั้งตรง หลังจากนั้นค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนงอศอกทั้งสองข้างขึ้นจนดัมบ์เบลล์แตะที่ช่วงไหล่ไปพร้อมๆ กัน เมื่อทำการย่อตัวลงอีกครั้งก็ให้ปล่อยแขนทั้งสองข้างลง ทำลักษณะนี้ซ้ำอีกจนครบเวลาที่กำหนดไว้

ท่าที่ 2 ย่อแล้วกาง

ท่านี้จะช่วยกระชับ กัน สะโพก ไหล่ เอ็นร้อยหวาย และ กล้ามเนื้อต้นแขน ใช้เวลาในการปฏิบัติ 3 นาที

ให้ยืนตัวตรง แยกขาทั้งสองข้างออกให้พอดีกับช่วงสะโพก ปล่อยแขนทั้งสองข้างแนบกับลำตัว มือถือดัมบ์เบลล์ไว้ทั้งสองข้าง ก้าวขาข้างใดข้างหนึ่งไปด้านหลังแล้วค่อยๆ ย่อตัวลง กางแขนทั้งสองข้างออกให้อยู่ในระดับเดียวกันกับบ่า จากนั้นค่อย ๆ ปล่อยแขนทั้งสองข้างลง และกลับไปสู่ท่าเริ่มต้น เปลี่ยนขาอีกข้างก้าวไปข้างหลังแล้วทำแบบเดิมซ้ำ ให้ทำสลับกันไปเรื่อยๆ จนครบเวลาที่กำหนดไว้

ท่าที่ 3 วิดพื้น

ท่านี้จะช่วยกระชับ ก้น สะโพก หน้าอก ไหล่ หน้าท้อง หลังส่วนบน และ กล้ามเนื้อต้นแขน ใช้เวลาปฏิบัติ 1 นาที

ให้เริ่มจากทำท่าเหมือนเวลาคลานโดยให้เข่าทั้งสองข้างแนบลงกับพื้น วางมือทั้งสองข้างให้กว้างกว่าช่วงไหล่เล็กน้อย ทิ้งตัวลงช้า ๆ โดยใช้มือทั้งสองยันพื้นไว้จนช่วงอกเกือบจะแตะพื้น ยกตัวกลับสู่ท่าเริ่มต้น ทำซ้ำไปเรื่อยๆ จนครบเวลาที่กำหนดไว้

เป็นยังไงกันบ้างไม่ยากเลยใช่ไหม แค่ปฏิบัติตามนี้กันเป็นประจำรับรองได้ว่าแขนที่เรียวงามจะไม่หนีคุณไปไหนแน่นอน

7 วิธี เผาผลาญไขมันอย่างเห็นผล

หากสาวๆ อยากจะให้รูปร่างสวยเพรียว นอกจากว่าเราจะต้องเอาจริงกับมันแล้ว ยังต้องมีวิธีการลดน้ำหนักที่ถูกต้องซึ่งเรามีวิธีดีๆมาแนะนำดังนี้

1. การจำกัดปริมาณอาหารในแต่ละมื้อ

กินมื้อเช้าให้เยอะที่สุด มื้อกลางนั้นวันรองลงมาจากมื้อเช้า ส่วนมื้อเย็นก็ควรเป็นมื้อที่ทานให้น้อยที่สุด หรือกินแค่ผลไม้หรือสลัดผักสักจานก็พอแล้ว

2. ต้องออกกำลังกายอย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์

แต่ละครั้งไม่ควรที่จะต่ำกว่า 30 นาที สาวๆนั้นควรที่จะออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำ เพื่อจะให้การเผาผลาญไขมันส่วนเกินนั้นเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และเมื่อสลายไขมันได้แล้ว การออกกำลังกายในครั้งต่อๆไปก็จะทำให้กล้ามเนื้อของเรากระชับขึ้นและป้องกันไม่ได้ไขมันหวนคืนมาอีก

3. ต้องงดอาหารที่มีไขมันสูงอย่างเด็ดขาด

วิธีนี้คือวิธีที่จะช่วยลดหน้าท้องได้ดีที่สุด เพราะหน้าท้องของเรานั้นจะเป็นที่แรกที่ร่างกายของเราจะเอาไขมัน ส่วนเกินมาเก็บเอาไว้

4. สำหรับการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักนั้น

เราจะต้องเน้นที่การเคลื่อนไหวอย่างเป็นจังหวะด้วยถึงจะได้ผลดี เช่น เต้น วิ่ง ว่ายน้ำ แอโรบิก

5. ถ้าหากว่าสาวๆ อยากจะออกกำลังกายเฉพาะส่วนเพื่อลดหน้าท้อง

ควรจะออกกำลังในตอนเช้าจะได้ผลดีที่สุด เพราะว่าในตอนเช้าเป็นเวลาที่ระบบต่างๆ ในลำไส้กำลังทำงาน ถ้าได้ออกกำลังกายมันก็จะยิ่งเสริมการเผาผลาญบริเวณนี้ได้มากกว่าปกติ

6. ถ้าเราต้องการจะลดหน้าท้องให้ได้ผล

หัวใจหลักๆของหัวข้อนี้ อยู่ที่การทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องของเราได้เคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ถ้าท่าลดหน้าท้องที่คุณเลือกนั้นใช้ทำไม่ได้แบบนี้ ก็แปลว่าท่านั้นเป็นท่าที่ไม่ได้เรืองหรือ ต่อให้ออกกำลังกายอย่างหนักแค่ไหน แต่หน้าท้องของเรานั้นไม่ได้เคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อ ก็เท่ากับว่าเราเสียแรงฟรี

7. ท่าบริหารลดหน้าท้อง

ไม่ว่าเรานั้นจะเลือกทำท่าไหนก็ตาม เราควรที่จะทำไม่ต่ำกว่าเซ็ตละ 15 ที จากนั้นเราก็ค่อยๆ เพิ่มจำนวนเซ็ตขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึง 3 เซ็ตใน 1 ครั้ง

เทคนิคดีๆ การบริหารหน้าท้อง ต้นขา ต้นแขน

นอกจากการบริหารร่างกายแบบคาร์ดิโอ เพื่อเป็นการเผาผลาญแคลอรีและไขมันแล้ว การทำกายบริหารเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อนั้น มันก็เป็นอีกหนึ่งที่คัญของหน้าท้องแบนราบ และก็ก็ไม่ใช่ว่าจะมีแต่วิธีซิตอัพ หรือครันช์เพื่อบริหารหน้าท้องเพียงเท่านั้น ยังมีทางเลือกอื่นๆที่ช่วยให้คุณได้บริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องได้เช่นกัน! มาดูกัน Ballerina Twist ท่าบริหารหน้าท้องและลำตัว วิธีการ นั่งลงบนพื้น ยืดขาออกมาทางด้านหน้า ต้นขาชิดกันไว้ ปลายนิ้วเท้าชี้ไปข้างหน้า เกร็งหน้าท้องแล้วก็เอนตัวไปด้านหลัง พร้อมทั้งวางแขนช่วงล่างลงกับพื้น ฝ่ามือวางราบปลายนิ้วชี้ออกนอกตัว จากนั้นเริ่มด้วยการวางแขนซ้าย แล้วยกแขนขวาขึ้นเหนือหัวพร้อมกับบิดลำตัวไปทางซ้าย แล้วกลับสู่ท่าเดิม จากนั้น เปลี่ยนแขนเป็นอีกข้างแล้วบิดตัวไปทางด้านขวาบ้าง ทำสลับกัน 20 ครั้งนับเป็นหนึ่งเซ็ต ให้ทำ 2 เช็ต Twist and Drop วิธีการบริหาร

เคล็ดลับขาเรียวสวย

ขาเรียวเล็กเป็นที่ยอดปรารถนาของสาว ๆ แทบจะทุกคน ก็แหม…ถ้าใครมีขาที่เรียวสวย ความมั่นใจที่จะเลือกหยิบกางเกงขาสั้น กระโปรงสั้น มาใส่ก็เพิ่มขึ้นอีกโข แถมหนุ่ม ๆ หลายคนยังชอบแอบมองขาผู้หญิงด้วยนะ เพราะฉะนั้น หากจะบอกว่า ขาเรียวสวยเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของผู้หญิงก็คงไม่ผิดใช่มะ ว่าแต่…จะทำยังไงให้มีขาเรียวสวยได้ล่ะ เอ้า…ตามมาอ่านกันจ้า

Step 1 : มาออกกำลังบริหารเรียวขาให้สวยสมใจกันดีกว่า

ก่อนอื่นจะมีขาเรียวสวยได้ก็ต้องหมั่นบริหารช่วงขาถูกไหมล่ะ เพราะฉะนั้น จะมัวรอช้าอยู่ใย เรามีเคล็ดลับเด็ด ๆ ที่จะช่วยบริหารช่วงขามาฝากกัน ใครถนัดท่าไหน เลือกบริหารกันได้ตามใจชอบเลยนะจ๊ะ

บริหารบั้นท้าย

ท่าที่ 1 ท่ายืน

โดยเริ่มจากยืนแยกขา งอเข่าเล็กน้อย หลังตรง มือเท้าสะเอว แล้วงอเข่าทำมุมเก้าสิบองศา เอนตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยจนตัวค้อมลงมาหาขาอ่อน ส้นเท้าแนบพื้น ลดตัวลงไปกระทั่งก้นอยู่ในระดับเดียวกับเข่า เกร็งไว้หนึ่งวินาที จากนั้นค่อย ๆ หวนกลับมาท่ายืน ทำซ้ำ 20 ครั้ง ทำบ่อย ๆ จะช่วยให้กล้ามเนื้อก้นและขาอ่อนส่วนหน้ากระชับ

ท่าที่ 2 ท่านอน

นอนหงายโดยงอขาข้างหนึ่งไว้แล้วให้เท้าข้างนั้นวางราบกับพื้น งอเข่าอีกข้างเข้ามาหาตัวและไขว้เหนือขาอ่อน ปล่อยให้หัวเข่าตกออกไปทางด้านนอก วางมือทั้งสองข้างไว้ระหว่างหัวเข่าและดึงขาด้านที่งออยู่ให้เข้าหาหน้าอก

บริหารขาอ่อน-ลดต้นขา

ท่าที่ 1

บริหารกล้ามเนื้อขาอ่อน หน้าขา และหลังขา เริ่มจากยืนตรง ยื่นขาข้างหนึ่งไปข้างหน้า แขม่วท้อง แล้วงอเข่าลง ทิ้งน้ำหนักลงที่ส้นเท้า เกร็งสะโพกไว้ แล้วค่อย ๆ กลับมายืนตัวตรงช้า ๆ ทำซ้ำ 15 ครั้ง และทำสลับกับขาอีกข้าง

ท่าที่ 2

ออกกำลังขาอ่อนด้านใน ให้สาว ๆ นอนตะแคงซ้าย งอเข่าขวาพาดพื้น ขาซ้ายยืดตรง จากนั้นค่อย ๆ ยกขาซ้ายขึ้น เกร็งไว้ประมาณ 1 วินาที แล้วยกลง ทำซ้ำแบบนี้ 15 – 20 ครั้ง แล้วสลับกับขาอีกข้าง

ท่าที่ 3

ยืดกล้ามเนื้อขาอ่อนด้านใน (Butterfly Stretch) เริ่มจากนั่งลงโดยให้หัวเข่างอและชี้ไปด้านนอกและให้ฝ่าเท้าทั้งสองข้างประกบกันอยู่ตรงกลาง วางข้อศอกทั้งสองข้างไว้ด้านในหัวเข่าทั้งสองแล้วค่อย ๆ โน้มตัวไปข้างหน้า ค่อยกดหัวเข่าทั้งสองข้างลงหาพื้น

ท่าที่ 4

ออกกำลังกายขาอ่อนด้านในไปแล้ว ก็มาออกกำลังกายขาอ่อนด้านนอกกันบ้าง ซึ่งวิธีการก็คล้ายกับการบริหารขาอ่อนด้านใน โดยให้สาว ๆ นอนตะแคงข้าง งอเข่าขวาเล็กน้อย แต่ใช้มือขวารองรับศรีษะไว้ ส่วนขาซ้ายเหยียดตรงแล้วค่อย ๆ ยกขึ้น เกร็งไว้ 1 วินาทีแล้วลดลง ทำซ้ำ 15 – 20 ครั้ง จากนั้นสลับทำกับอีกข้าง

ท่าที่ 5

ทีนี้ก็มาออกกำลังกายขาอ่อนด้านในและด้านนอกพร้อม ๆ กัน ให้ยืนตรงแยกขา มือเท้าสะเอวไว้ ย่อเข่าขวาลงแล้วก้าวเท้าออกมาข้างหน้าจนกระทั่งขาอ่อนขวาขนานกับพื้น พยายามอย่าให้เข่ายื่นเลยข้อเท้าขวา ค่อย ๆ รั้งเท้าซ้ายกลับ กดแนบพื้นเพื่อสร้างแรงต้านกระทั่งเท้ามาคู่กันและกลับสู่ท่าเดิม ทำซ้ำกับขาซ้าย ทำข้างละ 15 – 20 ครั้ง

ท่าที่ 6

ให้นอนราบลงบนพื้น ไขว้ข้อเท้าไว้ด้วยกัน แล้วพยายามงอเข่าให้เข้ามาชิดตัวให้มากที่สุด ขณะที่ข้อเท้ายังไขว้กันอยู่ จากนั้นค่อยยืดขาออก คลายข้อเท้าทั้งสองเท้าออกจากกัน แล้วกลับสู่ท่าเริ่มต้น ฝึกทำบ่อย ๆ ประมาณ 24 ครั้งต่อวัน

ท่าที่ 7

หาผ้าปู หรือเบาะรองนั่งมารองก้น เพื่อรับน้ำหนักและป้องกันการเจ็บก้น นอนหงายไปกับพื้น จากนั้นยกขาขึ้นทั้งสองข้างขึ้นเหยียดตรง ค้างเอาไว้ แยกขาออกจากกันไปทางด้านข้างแล้วหุบขา ทำซ้ำไปมา 20 ครั้ง และปิดท้ายด้วยการปั่นจักรยานกลางอากาศ พยายามทำให้เร็ว และให้มากครั้งที่สุด ก่อนจะเปลี่ยนท่ามานั่งกับเก้าอี้ เหยียดขาให้ตรง ยกขาขึ้นจากพื้นเล็กน้อย สลับซ้าย-ขวากันไปมา อย่างน้อย 100 ครั้ง

ท่าที่ 8

ยืนหันข้างให้กับกำแพง วางมือบนกำแพง เหยียดขาข้างที่ไม่ได้ชิดกำแพง ยกขึ้นมา 90 องศา ด้านหน้าพยายามให้ขนานกับพื้น ทำอย่างน้อย 10 ครั้ง ต่อด้วยการยกขาขึ้นทางด้านข้างและด้านหลัง อย่างละ 10 ครั้งเหมือนกัน จากนั้นเปลี่ยนเป็นขาอีกข้างหนึ่ง ทำซ้ำ ๆ เหมือนกัน

ท่าที่ 9

ต้องใช้เวท น้ำหนัก 1 กิโลกรัม เป็นตัวช่วยด้วยค่ะ ให้นอนลงกับพื้นแล้วผูกเวทติดไว้ที่ขา แล้วยกขาให้สูงขึ้นจากพื้น 45 องศา อย่างช้า ๆ นับ 1-5 แล้ววางลง จนเมื่อร่างกายเริ่มชินกับน้ำหนักของเวท ให้ยกขาขึ้นลงด้วยความเร็วมากขึ้น โดยท่าลดต้นขานี้ควรทำทีละข้าง ครั้งละ 3 เซต เซตละ 10 ครั้ง หมั่นทำบ่อย ๆ อาทิตย์ละ 2-3 ครั้งค่ะ เมื่อทำจนชำนาญแล้ว ก็อาจจะยกขาให้สูงขึ้นกว่าเดิมได้

ท่าที่ 10

ท่านี้จะเป็นการบริหารต้นขาด้านหน้าได้อย่างดีเลยล่ะ โดยให้คุณสาว ๆ นอนหงาย แล้วสอดมือทั้ง 2 ข้างรองก้นไว้ งอเข่าซ้ายขึ้นมาเข้าหาอก แล้วยก-เหยียดขาขวาขึ้นข้างบนอย่างช้า ๆ เมื่อเหยียดขาขวาจนสุดแล้ว ให้ค้างอยู่ในท่านั้นสักครู่ เพื่อให้เกิดความรู้สึกตึงที่ต้นขาด้านหน้า และด้านหลังของลำขา จากนั้นกลับสู่ท่าเริ่มต้น โดยเปลี่ยนเป็นงอเข่าขวาเข้าหาอก แล้วเหยียดขาซ้ายยกขึ้นสูงแทน ทำ 3 เซ็ต เซ็ตละ 10-15 ครั้ง ต่อวัน และควรทำเป็นประจำ 3-5 วันต่อสัปดาห์ค่ะ

ท่าที่ 11

ท่านี้อิมพอร์ตมาจากประเทศญี่ปุ่นค่ะ โดยให้คุณสาว ๆ อยู่ในท่ายืน ยกขาข้างหนึ่งไปข้างหน้า ปลายเท้าชี้ขึ้นฟ้า จากนั้นค่อย ๆ ลากขามาข้างหลัง ไขว้ไปที่ขาอีกข้างแล้วค้างไว้นานประมาณ 20 วินาที จากนั้นสลับมาทำอีกข้าง จะช่วยให้ต้นขาเล็กลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ แถมท่านี้ยังทำได้ง่าย ๆ แม้คุณจะยืนทำอะไรอยู่ก็ตาม

ท่าที่ 12

ขอเอาใจคนรักการว่ายน้ำบ้าง เพราะวิธีลดต้นขานี้สามารถทำได้ในน้ำค่ะ ง่าย ๆ เลยก็คือ ให้ใช้แขนทั้งสองข้างจับขอบสระ คว่ำหน้า ยืดขาเหยียดให้ลอยตัวพร้อมกับตีขาไปจนเมื่อย แล้วพักสักครู่ก่อนจะตีขาต่อ ทำประมาณ 10-15 ครั้งค่ะ

นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งท่า ก็คือ ให้ยืนในน้ำ หันข้างให้ขอบสระ มือหนึ่งจับขอบสระไว้ อีกมือหนึ่งเท้าเอวไว้ เหยียดขาให้ตรง แล้วเหวี่ยงขาข้างเดียวกับที่เท้าเอวไปข้างหน้า แล้วเหวี่ยงกลับ ทำทั้งหมด 20 ครั้ง แล้วสลับมาทำอีกข้างหนึ่งอีก 20 ครั้ง ทำซ้ำจนครบ 10-15 ครั้ง จะช่วยบริหารต้นขาได้เยี่ยมเลยล่ะ

บริหารน่อง

ท่าที่ 1 บริหารกล้ามเนื้อน่องส่วนหลัง

ท่านี้ต้องใช้อุปกรณ์อย่างเช่นม้านั่งตัวเล็ก ๆ หรือบันไดเล็ก ๆ และหาสถานที่ที่มีราวจับหน่อย เพื่อความสมดุลในการทรงตัว

เริ่มจากให้ยืนอยู่บนบันไดโดยให้ส้นเท้าทั้งสองข้างยืดลอยไปด้านหลัง ยกตัวขึ้นโดยเขย่งด้วยปลายเท้าช้า ๆ จากนั้นวางเท้าลงตามเดิม แล้วเขย่งตัวขึ้นใหม่ซ้ำ ๆ หลาย ๆ รอบ ท่านี้จะช่วยยืดกล้ามเนื้อน่องส่วนหลังและทำให้การไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น

ท่าที่ 2 บริหารกล้ามเนื้อน่องด้านหลัง ด้วยลูกบอลบริหาร

ให้สาว ๆ นอนลงบนพื้น ยกส้นเท้าให้วางอยู่บนลูกบอลสำหรับบริหาร ยืดปลายเท้ากลับเข้ามาหาตัว ยกบั้นท้ายขึ้นจากพื้น จากนั้นค่อย ๆ หมุนลูกบอลเข้ามาจนหัวเข่าขึ้นมาอยู่เหนือตะโพก จากนั้นหมุนลูกบอลกลับไปที่เดิม

ท่าที่ 3 ยืดน่อง

ยืนห่างจากต้นไม้หรือกำแพงหนึ่งช่วงแขน ยกขาข้างหนึ่งไปข้างหลังและงอเข่าของขาข้างที่อยู่ด้านหน้า โน้มลำตัวไปข้างหน้าและวางมือทั้งสองข้างลงบนต้นไม้โดยให้แขนดึง เพื่อยันเอาไว้ไม่ให้ล้ม โน้มตะโพกมาข้างหน้า และงอเข่าด้านที่อยู่ด้านหน้า ดันส้นเท้าของเท้าหลังให้ยึดติดกับพื้น หากรู้สึกการยืดกล้ามเนื้อท่านี้ทำให้ไม่สบายหรือทำได้ลำบาก ก็ลดความห่างระหว่างเท้าหน้าและเท้าหลังลง เมื่อทำเสร็จแล้วก็สลับทำอีกข้าง

บริการกล้ามเนื้อขา

ให้นอนตะแคงทับเหนือลูกบอลบริหาร วางสมดุลไว้ที่เท้าล่าง จากนั้นยกลำตัวขึ้นและลงโดยทำให้ได้ระยะยาวที่สุดเท่าที่จะทำได้และทำอย่างกระฉับกระเฉง เพื่อให้ยากขึ้นอีกหน่อย ให้ยกขาด้านที่อยู่ด้านบนวนเป็นวงกลมพร้อมกันไป เมื่อทำเสร็จแล้วให้เปลี่ยนมาทำอีกข้างหนึ่ง

Step 2 : แก้ปัญหาผิวพรรณ

แม้ว่าการบริหารช่วงขาของคุณอย่างเอาเป็นเอาตาย อาจจะทำให้คุณมีขาเรียวเล็กสวยได้สมใจแล้ว แต่สาว ๆ จะกล้านุ่งสั้นหรือจ๊ะ ถ้าเรียวขาของเราลายพร้อย แถมยังเป็นแผลเป็น เส้นเลือดขอด เซลลูไลท์ อีกต่างหาก แบบนี้ไม่ไหวแน่ ต้องมาดูแลผิวพรรณช่วงขากันก่อนแล้วล่ะ

กำจัดขนหน้าแข้ง

ใคร ๆ ก็มีขนหน้าแข้งทั้งนั้น แต่ถ้ามีเกินงามก็ดูไม่เหมาะใช่ไหมล่ะ ลองดูวิธีการกำจัดขนหน้าแข้งที่เรารวบรวมมาฝากกัน

โกน วิธีเบสิกที่ง่ายและเร็ว แนะนำให้โกนขนขณะอาบน้ำอุ่น เพราะน้ำอุ่นจะช่วยให้รูขุมขนเปิด ทำให้โกนได้ง่าย ลื่นมือ โดยอาจใช้เจล หรือโฟมโกนหนวด เพื่อช่วยหล่อลื่น กระชับผิวหลังการโกนได้ด้วย จากนั้นก็ใช้ออยล์ลูบไล้ผิวที่ยังเปียก ๆ อยู่ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว แล้วซับด้วยผ้าขนหนูให้แห้ง

ครีมขจัดขน สะดวก รวดเร็ว แต่ต้องเลือกใช้ให้ดี เพราะบางรายอาจเกิดอาการแพ้ได้

ย้อมสี ควรเลือกสีที่เข้ากับผิวของสาวเอเชีย อย่างสีน้ำตาลอ่อน หรือสีน้ำตาล

กำจัดผิวเซลลูไลท์ (cellulite)

ผิวเปลือกส้มที่ต้นขา และเรียวขา ย่อมไม่เป็นที่ปรารถนาของสาว ๆ ทุกคน ว่าแต่…จะจัดการปัญหาเซลลูไลท์อย่างไรดีนะ

ขจัดความเครียด เพราะความเครียดป้องกันการขจัดของเสียออกจากร่างกาย หันมาทำตัวสบาย ๆ ฝึกการหายใจ เพื่อให้ระบบร่างกายทำงานได้อย่างเหมาะสม

บริหารกล้ามเนื้อให้แข็งแรง อาจใช้ตุ้มน้ำหนักหรือบริหารออกแรงต้านก็ได้ เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อใต้ผิวหนังแน่นขึ้น

ใช้มะนาวช่วยกระจายเซลลูไลท์ โดยจิบน้ำมะนาวครึ่งหนึ่งผสมกับน้ำร้อนอีกครึ่งหนึ่งในตอนเช้า

ใช้น้ำมันหอมระเหยนวดบริเวณที่ต้องการ เช่น Juniper บริสุทธิ์ช่วยขจัดของเสียส่วนเกินออกจากร่างกาย ส่วนโรสแมรี่จะช่วยป้องกันการอุดตันของต่อมน้ำเหลือง ซึ่งนั่นทำให้เซลลูไลท์น้อยลงไปด้วย

ดื่มน้ำให้มากขึ้น เพราะน้ำจะช่วยล้างเอาสารพิษต่าง ๆ ในร่างกายออกไป

หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อให้เกิดการเผาผลาญไขมัน และทำให้ก้อนไขมันมีขนาดเล็กลง ช่วยให้ผิวดูเรียบขึ้น

ใช้ฝ่ามือนวดที่ด้านหลังของเข่า หรือขาอ่อน ซึ่งเป็นส่วนที่ไม่สามารถออกกำลังกายได้ อาจใช้ควบคู่กับครีมลดไขมันเฉพาะส่วนหรือใช้เครื่องนวดก็ได้ เพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อ การไหลเวียนของเลือด และระบบต่อมน้ำเหลือง ให้เนื้อเยื่อไขมันแตกตัว

ขัดผิวเวลาอาบน้ำช่วงเช้า เพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิว และช่วยให้เลือดไหลเวียนสะดวก หรืออาจจะอาบน้ำอุ่นเพื่อช่วยช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตให้เป็นไปโดยสะดวก

สลายเซลลูไลท์ด้วยเทคโนโลยี หรือการทำศัลยกรรม ซึ่งปัจจุบันมีให้เลือกสรรหลากหลายวิธี

ควบคุมอาหาร ไม่รับประทานอาหารขยะ น้ำอัดลม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ให้ทานผักผลไม้สดให้มาก ๆ รวมทั้งทานอาหารโปรตีน จำพวกไข่ ปลา ถั่วต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ

งดสูบบุหรี่ เพราะบุหรี่จะไปทำลายการสร้างคอลลาเจนในผิว ซึ่งมันทำให้เซลลูไลท์เพิ่มขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้เลยล่ะ

แก้ปัญหาหัวเข่าดำ-ด้าน

บางคนต้องคุกเข่าบ่อย หรือไม่ได้ดูแลหัวเข่าเท่าที่ควร ทำให้หัวเข่าซึ่งเป็นบริเวณที่มีต่อมไขมันน้อยถูกเสียดสีจนดำคล้ำได้ง่าย ๆ ลองใช้สูตรเด็ดต่อไปนี้ขัดผิวที่บริเวณหัวเข่าของคุณดู

ผสมน้ำมันทาตัว (หรือจะใช้น้ำมันมะกอกก็ได้) ครึ่งถ้วย กับน้ำตาลทราย 4–5 ช้อนโต๊ะ นวดลงผิวบริเวณหัวเข่าที่เปียกน้ำแล้วเป็นแนววงกลม น้ำตาลจะช่วยลอกสะเก็ดผิวแห้ง ๆ ออก ในขณะที่น้ำมันจะช่วยทำให้ผิวนุ่มขึ้น จากนั้น ก็ล้างออกด้วยสบู่ เช็ดให้แห้ง แล้วทาครีมชนิดเข้มข้นตามลงไปทันที ทำแบบนี้สัปดาห์ละครั้ง จะช่วยให้หัวเข่านุ่มเนียนขึ้น

แก้ปัญหาเส้นเลือดขอด

การรักษาเส้นเลือดขอดสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การใช้ถุงน่องทางการแพทย์ หรือการพันผ้ายืด รวมทั้งการฉีดยา หรือน้ำเกลือเข้าหลอดเลือดขอดให้เส้นตีบลง ซึ่งเห็นผลภายใน 6-8 สัปดาห์ แต่หากเส้นเลือดขอดมีขนาดใหญ่และยาวมาก แพทย์อาจจะแนะนำให้ผ่าตัดดึงเส้นเลือดขอดออกก็ได้ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของคนไข้ และการตัดสินใจของแพทย์ในแต่ละราย

วิธีป้องกันเส้นเลือดขอด

หลีกเลี่ยงการยืนอยู่เฉย ๆ ไม่ว่าจะยืน นั่ง หรือนั่งไขว่ห้างโดยไม่เคลื่อนไหวเป็นเวลานาน ๆ เพราะการทำเช่นนี้ทำให้การไหลเวียนของโลหิตไม่ดี

หากใส่ส้นสูงเป็นประจำ และเป็นเวลานาน ควรพักเท้า โดยการนั่งหรือนอนยกเท้าสูงคราวละ 15 นาที หรือการพักเท้าบนม้านั่ง

ควบคุมน้ำหนักตัว และหมั่นออกกำลังกายด้วยการเดิน เพื่อเป็นการเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อบริเวณรอบน่อง

ถูตัวหรือแปรงตัวทุกวัน ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต โดยให้เริ่มถู หรือแปรงตั้งแต่เท้า แล้วไล่ขึ้นมาถึงหัวใจ

ไม่สวมเสื้อผ้าที่คับเกินไป โดยเฉพาะบริเวณเอวและต้นขา เพราะจะทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก หลีกเลี่ยงการยืน

ฝึกกล้ามเนื้อน่องให้แข็งแรง โดยการยืนตัวตรง เขย่งเท้าขึ้นลงช้า ๆ 3 ชุด ชุดละ 10 ครั้ง ช่วยให้เส้นเลือดดำที่ขาไหลกลับสู่ร่างกายส่วนบนได้ดีขึ้น หรือหากขณะนั่งทำงาน ควรกระดกข้อเท้าขึ้นและลงติดต่อกันหลาย ๆ ครั้ง ให้กล้ามเนื้อน่องเกร็งและคลายตัวสลับกัน

ใส่ถุงน่องแบบกระชับ

ปัญหารอยแผลเป็น

สำหรับวิธีแก้ปัญหารอยแผลเป็นนั้น อาจใช้เจล หรือครีมลบเลือนรอยแผลเป็นมาทาด้วย จะช่วยให้รอยแผลค่อย ๆ หายไปได้ หรือถ้าใครมีแผลเป็นมาก เพราะน้ำเหลืองไม่ดี ก็อาจจะเลือกใส่ถุงน่องที่มีสีเดียวกับสีผิวเรียวขาของเรา จะช่วยพรางรอยแผลเป็นไปได้ แต่ถ้าใครมีงบถึง การทำศัลยกรรมด้วยเลเซอร์ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ลบรอยแผลเป็นออกไปจากเรียวขาของเราได้ค่ะ

ว้าว…เคล็ดลับดี ๆ เพียบเลย ลองเลือกใช้เลือกบริหารกันดูนะคะ อ้อ…แต่คุณสาว ๆ ต้องอดทนกันหน่อยนะ รับรองว่า ถ้าหมั่นบริหารเป็นประจำ ความฝันที่จะมีเรียวขาคู่สวยอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน ทีนี้ก็หยิบกางเกงขาสั้นสวย ๆ มาใส่ได้อย่างมั่นใจแล้วนะ