การลดน้ำหนักด้วยวิธี Intermittent Fasting สามารถช่วยทำให้คุณลดน้ำหนักได้อย่างไร
วิธีลดน้ำหนักมีหลากหลายวิธีแตกต่างกันไป
มีวิธีลดน้ำหนักแบบหนึ่งที่เป็นที่นิยมภายในไม่กี่ปีที่ผ่านมากเรียกว่าการลดน้ำหนักแบบ intermittent fasting
เป็นวิธีที่จำกัดช่วงเวลาในการทานอาหารปกติให้อยู่ในช่วงระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น
การอดอาหารในช่วงเวลาสั้นๆช่วยทำให้เกิดการบริโภคปริมาณแคลอรี่ที่น้อยและเป็นการช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนที่ทำงานเกี่ยวกับการควบคุมน้ำหนักอีกด้วย
สูตรลดน้ำหนักแบบ intermittent fasting มีหลายวิธี และมี 3 วิธีที่เป็นที่นิยมดังต่อไปนี้
วิธี 16/8 เป็นการอดอาหารเช้าทุกวันและมีช่วงเวลาที่กำหนดว่าจะไม่ทานอาหาร(feeding window)เป็นเวลา 8 ชั่วโมงอย่างเช่นเที่ยงถึงสองทุ่ม
กิน-หยุด-กิน เป็นวิธีที่มีการอดอาหาร 1 หรือ 2 ชั่วโมงในเเต่ละสัปดาห์ตัวอย่างเช่นการอดอาหารมื้อเย็นวันหนึ่งไปจนถึงช่วงมื้อเย็นของอีกวันหนึ่ง
วิธีอดอาหารแบบ 5ต่อ2 คือวิธีที่ทานอาหารที่มีปริมาณแคลอรี่ 500-600 กิโลแคลอรี่เป็นเวลา 2 วันต่อสัปดาห์แต่ทานอาหารตามปกติ 5 วัน
ตราบใดที่คุณไม่ทานอาหารเข้าไปทดเเทนระหว่างช่วงที่คุณไม่ได้อดอาหาร วิธีลดน้ำหนักประเภทนี้จะช่วยทำให้คุณสามารถลดประมาณการบริโภคแคลอรี่และช่วยทำให้คุณสามารถลดน้ำหนักรวมไปถึงช่วยลดไขมันหน้าท้องของคุณได้
วิธีลดน้ำหนักแบบ Intermittent Fasting ส่งผลต่อการทำงานของฮอร์โมนอย่างไร

ร่างกายกักเก็บพลังงานไว้ในไขมันซึ่งเรียกว่าพลังงานแคลอรี่
เมื่อเราไม่ได้ทานอาหารร่างกายจะเปลี่ยนแปลงพลังงานทุกประเภทที่กักเก็บไว้มาใช้เป็นพลังงาน
สิ่งนี้เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของการทำงานของระบบประสาทรวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนหลักๆที่สำคัญ
นี่คือสิ่งที่เกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบการเผาผลาญเมื่อคุณทำการอดอาหาร
สารอินซูลิน : สารอินซูลินจะเพิ่มขึ้นเมื่อเรารับประทานอาหารแต่เมื่อเราอดอาหารสารอินซูลินจะลดลงอย่างมากซึ่งเมื่อระดับอินซูลินลดลงจะช่วยทำให้ร่างกายเกิดการเผาผลาญได้ดี
โกรทฮอร์โมน (HGH) : ระดับของโกรทฮอร์โมนอาจเพิ่มขึ้นสูงมากในระหว่างการอดอาหารโดยสามารถเพิ่มขึ้นได้จนถึงระดับที่ 5 ซึ่งโกรทฮอร์โมนเป็นฮอร์โมนที่ช่วยทำให้ไขมันลดลงและทำให้กล้ามเนื้อเพิ่มมากขึ้น
ระดับฮอร์โมนนอร์อิพิเนฟริน (Norepinephrine) : ระบบประสาทจะทำการส่งฮอร์โมนนอร์อิพิเนฟรินไปยังเซลล์ไขมันทำให้เซลล์ไขมันเกิดการเเตกตัวเป็นกรดไขมันอิสระที่ทำให้เกิดการเผาผลาญไขมันให้กลายเป็นพลังงานได้
เป็นสิ่งที่น่าสนใจเเม้ว่าการลดน้ำหนักด้วยวิธีสามารถทานอาหารได้ 5-6 มื้อต่อวันซึ่งไม่ใช้ความเชื่อทั่วไปของการลดน้ำหนักแต่การอดอาหารในช่วงสั้นๆสามารถเพิ่มการเผาผลาญพลังงานได้
จากงานวิจัยพบว่าการอดอาหาร 48 ชั่วโมงสามารถช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานได้ถึง 3.6-14% แต่อย่างไรก็ตามการอดอาหารที่ยาวนานเกินไปสามารถทำให้กระบวนเผาผลาญลดลงได้
‘’
การอดอาหารในระยะสั้นทำให้สารต่างๆในร่างกายเปลี่ยนแปลงไปซึ่งทำให้สามารถเผาผลาญพลังงานได้ง่ายขึ้นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้แก่ระดับอินซูลินลดลง มีโกรทฮอร์โมนเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดการหลั่งสารเคมีเพิ่มมากขึ้นและช่วยเพิ่มกระบวนการเผาผลาญได้เล็กน้อย
วิธีเริ่มต้นลดน้ำหนักด้วยวิธี intermittent fasting ทำอย่างไร

การลดน้ำหนักด้วยวิธี Intermittent fasting เป็นวัฎจักรที่มีช่วงเวลาทานอาหารเเละช่วงอดอาหาร ในตอนเเรกผู้ที่ลดน้ำหนักอาจจะสามารถอดอาหารได้ในช่วงเวลาสั้นๆของแต่ละวันหรือสามารถอดอาหารตามช่วงเวลาที่กำหนดวันเว้นวันได้ ในบทความนี้ได้ให้เคล็ดลับเกี่ยวกับวิธีเริ่มต้นในการทำ Intermittent fasting ซึ่งได้แก่การกำหนดเป้าหมาย การวางเเผนทานอาหารและการกำหนดปริมาณแคลอรี่ที่ต้องการในเเต่ละวัน
วิธีการลดน้ำหนักแบบ Intermittent fasting เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมโดยส่วนใหญ่หลายคนใช้วิธีนี้เพื่อ
- ทำให้การใช้ชีวิตง่ายขึ้น
- ลดน้ำหนัก
- ทำให้ร่างกายโดยรวมแข็งเเรงและมีสุขภาพดีเช่นการลดผลกระทบที่เกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น
แม้ว่าการลดน้ำหนักด้วยการอดอาหารเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุดและยังทำให้ผู้ที่ลดน้ำหนักด้วยวิธีนี้ยังสามารถได้รับสารอาหารที่เพียงพอแต่วิธีการลดน้ำหนักประเภทนี้อาจไม่เหมาะสมกับผู้ที่เป็นโรคบางอย่างสำหรับผู้ที่เริ่มต้นอดอาหารสามารถทำตามวิธีต่อไปนี้เพื่อช่วยทำให้คุณประสบความสำเร็จความสำเร็จในการลดน้ำหนักได้ง่ายขึ้น
การกำหนดเป้าหมายส่วนบุคคล
โดยทั่วไปผู้ที่เริ่มลดน้ำหนักด้วยวิธี intermittent fasting มักมีเป้าอยู่ในใจได้แก่พวกเขาต้องการที่จะลดน้ำหนัก ทำให้ร่างกายเเข็งเเรงขึ้นหรือทำให้กระบวนการเผาผลาญของพวกเขาดีขึ้น ดังนั้นการทำให้พวกเขาบรรลุเป้าหมายสูงสุดพวกเขาควรกำหนดเป้าหมายเเละเลือกใช้สูตรอดอาหารที่เหมาะสมรวมไปถึงออกกำลังกายเพื่อเผาผลาญพลังงานและทานอาหารที่เต็มไปด้วยสารอาหารที่จำเป็น
เลือกสูตรอดอาหาร
สูตรอดอาหารมีอยู่ 4 รูปแบบซึ่งผู้ที่ลดน้ำหนักสามารถเลือกใช้ได้ตามเงื่อนไขสุขภาพของแต่ละบุคคล ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักสามารถเลือกแผนการที่เหมาะสมกับตัวเองและคิดว่าสามารถทำได้นาน
สูตรอดอาหารเพื่อลดน้ำหนักได้แก่
- สูตรกินหยุดกินโดยเป็นการอดอาหาร 24 ชั่วโมง (eat stop eat )
- อดอาหาร 20 ชั่วโมงและกินภายใน 4 ชั่วโมง (Warrior Diet)
- สูตรอดอาหาร 16 ชั่วโมงและกินภายใน 8 ชั่วโมง (Leangains)
- สูตรการอดอาหารแบบวันเว้นวัน (Alternate Day Fasting)
โดยส่วนใหญ่ผู้ที่ลดน้ำหนักควรเลือกใช้สูตรลดน้ำหนักด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งโดยใช้เวลา 1 เดือนหรือมากกว่านั้น หากพบว่าวิธีที่พวกเขาเลือกใช้ใช้เเล้วได้ผลก่อนที่จะเปลี่ยนไปใช้วิธีอื่นๆ อย่างไรก็ตามผู้ที่มีโรคประจำตัวควรสอบถามเเพทย์ก่อนเริ่มต้นใช้วิธีลดน้ำหนักด้วยการอดอาหาร
เมื่อผู้ที่ลดน้ำหนักตัดสินใจด้วยวิธีนี้ พวกเขาคนระลึกอยู่เสมอว่าพวกเขาไม่ควรทานอาหารปริมาณมากเพื่อทดเเทนมื้อที่อดอาหารหรือหลีกเลี่ยงการทานอาหารบางชนิด โดยผู้ที่ลดน้ำหนักด้วยวิธีนี้สามารถทานอาหารตามที่พวกเขาต้องการได้ แต่อย่างไรก็ตามเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการลดน้ำหนักและมีสุขภาพดีควรทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ มีไฟเบอร์สูงและทานอาหารที่มีผักเป็นส่วนประกอบส่วนใหญ่ในช่วงนี้
การทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ทำให้ร่างกายทำงานได้ไม่ดีนอกจากนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการดื่มน้ำปริมาณมากหรือดื่มเครื่องดื่มที่ไม่มีแคลอรี่ในวันที่คุณอดอาหาร
สูตรกินหยุดกินโดยเป็นการอดอาหาร 24 ชั่วโมง (eat stop eat )
Brad Pilon ได้พัฒนาสูตรลดน้ำหนักแบบสูตรกินหยุดกินโดยเป็นการอดอาหาร 24 ชั่วโมง (eat stop eat )
เป็นเวลา 2 ครั้งต่อสัปดาห์ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นวันที่อดอาหารหรือเริ่มอดอาหาร ข้อจำกัดของวิธีนี้มีเพียงเเค่ต้องอดอาหารให้ได้ 24 ชั่วโมงและไม่อดอาหารต่อเนื่องกัน
ผู้ที่อดอาหารเป็นเวลา 24 ชั่วโมงจะมีความรู้สึกหิวมากซึ่งสูตร eat stop eat นี้อาจไม่ใช่วิธีที่เหมาะสมกับผู้ที่ไม่คุ้นชินกับการอดอาหารหรือเริ่มอดอาหาร
สูตรอดอาหาร 20 ชั่วโมงและกินภายใน 4 ชั่วโมง (Warrior Diet)
Ori Hofmekler เป็นผู้สร้างสูตรอดอาหารแบบ Warrior Diet ขึ้นซึ่งเป็นการทานอาหารในปริมาณที่น้อยมากเป็นเวลา 20 ชั่วโมงในแต่ละวัน โดยผู้ที่ใช้วิธีนี้สามารถทานอาหารทุกประเภทที่ต้องการภายใน 4 ชั่วโมง
การทานอาหารทั้งวันในช่วงเวลาที่สั้นๆทำให้ท้องของผู้ที่ลดน้ำหนักรู้สึกไม่ค่อยสบายซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีการอดอาหารขั้นสูงสุดและเป็นวิธีที่เหมือนกับสูตร eat stop eat โดยส่วนใหญ่ผุ้ที่เป็นมือใหม่มักไม่ค่อยอยากเริ่มลดน้ำหนักด้วยวิธีนี้
สูตรอดอาหาร 16 ชั่วโมงและกินภายใน 8 ชั่วโมง (Leangains)
Martin Berkhan เป็นผู้คิดค้นสูตรอดอาหาร 16 ชั่วโมงและกินภายใน 8 ชั่วโมง (Leangains) เพื่อเพิ่มน้ำหนักแต่วิธีนี้ได้รับความสนใจจากผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักด้วยวิธีอดอาหาร ซึ่งไม่เหมือนกับสูตร Eat stop Eat และสูตร Warrior Diet เนื่องจากสูตรอดอาหาร 16 ชั่วโมงและกินภายใน 8 ชั่วโมง (Leangains) ใช้เวลาที่สั้นกว่า
ตัวอย่างผู้ชายที่เลือกใช้วิธี Leangains จะอดอาหารเป็นเวลา 16 ชั่วโมงและทานอาหารตามที่พวกเขาต้องการในช่วง 8 ชั่วโมงที่เลือกของวันส่วนผู้หญิงจะอดอาหารเป็นเวลา 14 ชั่วโมงและทานอาหารตามที่ต้องการในช่วง 10 ชั่วโมงที่เหลือ
ในช่วงระหว่างที่อดอาหารผู้ที่ลดน้ำหนักควรหลีกเลี่ยงการทานอาหารแต่สามารถดื่มเครื่องดื่มที่ไม่มีแคลอรี่ตามที่พวกเขาชื่นชอบได้
สูตรการอดอาหารแบบวันเว้นวัน (Alternate Day Fasting) หรือ 5 ต่อ 2
บางคนอาจเลือกใช้สูตรอดอาหารแบบวันเว้นวันเพื่อปรับปรุงการไหลเวียนของเลือด คอลเลสเตอรอลและช่วยลดน้ำหนัก โดยผู้ที่ใช้วิธี 5 ต่อ 2 จะสามารถทานอาหารได้ในปริมาณ 500 ถึง 600 กิโลแคลอรี่เป็นเวลาไม่ติดต่อกันในเเต่ละสัปดาห์
สำหรับสูตรการอดอาหารแบบวันเว้นวัน (Alternate Day Fasting) นี้จะมีการเพิ่มเวลาในการอดอาหารเป็นสามวันต่อสัปดาห์สำหรับสัปดาห์ที่หยุดพักผู้ที่ลดน้ำหนักสามารถทานอาหารได้ในปริมาณมีแคลอรี่จำกัดเท่านั้น เมื่อเวลาผ่านไปจะทำให้เกิดการขาดแคลนแคลอรี่จึงเป็นสาเหตุทำให้น้ำหนักลดลงได้
ปริมาณแคลอรี่ที่ต้องการ
ไม่ข้อจำกัดในการทานอาหารเมื่อใช้วิธีลดน้ำหนักแบบการอดอาหารแต่ไม่ได้หมายความจะไม่มีการนับจำนวนแคลอรี่
ผู้ที่พยายามหาวิธีลดน้ำหนักจำเป็นต้องทำให้ร่างกายเกิดภาวะขาดแคลนแคลอรี่ซึ่งหมายความว่าพวหเขาสามารถทานอาหารที่ให้พลังงานได้น้อยลงกว่าที่พวกเขาใช้งานส่วนผู้ที่ต้องการมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นจำเป็นต้องทานอาหารที่มีพลังงานมากกว่าที่พวกเขาต้องการ
มีหลายวิธีที่ช่วยทำให้ผู้ลดน้ำหนักสามารถจัดการกับแคลอรี่และกำหนดปริมาณแคลอรี่ที่พวกเขาต้องการใช้เเต่ละวันทั้งเพื่อลดน้ำหนักเเละเพิ่ใน้ำหนัก โดยผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพควรผู้คุยกับผู้เชี่ยวชาญหรือนักโภชนาการเพื่อกำหนดเเนวทางว่าพวกเขาควรได้รับปริมาณแคลอรี่เท่าไหร่ในแต่ละวัน
การวางแผนทานอาหาร

ผู้ที่สนใจลดน้ำหนักหรือเพิ่มน้ำหนักสามารถหาตัวช่วยอื่นๆได้ เพื่อวางเเผนในการทานอาหารแต่ละวันหรือสัปดาห์
ทั้งนี้การวางแผนทานอาหารไม่จำเป็นต้องมีข้อจำกัดมากเกินไปโดยสามารถคำนึงถึงเพียงเเค่ปริมาณแคลอรี่ที่ได้รับเข้าไปและสารอาหารที่ได้รับ
การวางแผนทานอาหารให้ประโยชน์มากมายเช่นช่วยให้ผู้ที่ลดน้ำหนักสามารถเคร่งครัดกับการนับเเคลอรี่และทำให้มั่นใจว่าพวกเขาได้ทานอาหารที่มีประโยชน์ไม่ว่าจะในเมนูอาหารหลักหรืออาหารว่าง
วางเเผนนับแคลอรี่
ปริมาณแคลอรี่ในอาหารทุกชนิดมีปริมาณที่แตกต่างกันแม้ว่าวิธีลดน้ำหนักด้วยการอดอาหารไม่ได้มีข้อจำกัดว่าควรทานอาหารในประมาณแคลอรี่เท่าไหร่เมื่ออดอาหารซึ่งสิ่งที่สำคัญพิจารณาจากคุณค่าของสารอาหารที่รับประทาน
โดยปกติคนทั่วไปควรมีเป้าหมายในการทานอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์หรืออาหารที่มีคุณค่าทางสารอาหารมากกว่าปริมาณของแคลอรี่ แม้ว่าผู้นั้นไม่เคยบริโภคอาหารขยะมาก่อน พวกเขาควรฝึกการรักษาสมดุลของการทานอาหารเเละเน้นเลือกทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพเพื่อประโยชน์สูงสุด
วิธีลดน้ำหนักแบบ intermittent fasting มีประสิทธิภาพอย่างไร

การอดอาหารมีผลกระทบต่างเกิดขึ้นกับร่างกายได้แก่
- การลดระดับของอินซูลินซึ่งทำหน้าให้ร่างกายกักเก็บไขมันได้มากขึ้น
- ลดระดับน้ำตาลในเลือดและลดความดันเลือดรวมไปถึงลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ
- เปลี่ยนระบบการทำงานของเซลล์บางชนิดที่ช่วยป้องกันการเกิดโรค
- ลดระดับโกรทฮอร์โมนให้ลดลงอย่างมากเพราะโกรทฮอร์โมน (HGH) ช่วยทำให้ร่างกายนำไขมันมาใช้และช่วยสร้างกล้ามเนื้อ
- ร่างกายจะเกิดการกระตุ้นทำให้เกิดกระบวนการที่เรียกว่าการกลืนกินตัวเองของเซลล์ (Autophagy) ที่เป็นกระบวนการที่สำคัญต่อการทำงานของระบบย่อยอาหารหรือการฟื้นฟูเซลล์ให้กลับมากมีชีวิตชีวาอีกครั้ง
การอดอาหรเกิดขึ้นในมนุษย์อีกครั้งเมื่อบรรพบุรุษในอดีตต้องออกไปหาอาหารอย่างยากลำบากจึงเกิดการอดอาหารขึ้นระหว่างมื้ออาหาร ร่างกายของมนุษย์จึงนำวิธีการทานอาหารแบบนี้มาใช้เพื่อทำให้ดำรงชีวิตอยู่ได้ในช่วงที่มีการอดอาหารไปจนถึงช่วงเวลาที่ได้ทานอาหาร
การลดน้ำหนักด้วยวิธี Intermittent fasting เป็นการบังคับให้อดอาหารดังนั้นเมื่อตัดสินใจลดน้ำหนักด้วยวิธีนี้เเล้วจึงสามารถทำให้สามารถลดน้ำหนักลงได้อย่างมีประสิทธิภาพซึ่งตรงกับความจริงในงานวิจัยที่ศึกษาค้นพบว่าการลดน้ำหนักด้วยวิธี Intermittent fasting สามารถช่วยให้ลดน้ำหนักได้
นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยอื่นๆที่กล่าวว่าการอดอาหารสามารถช่วยทำให้ลดน้ำหนักลงได้ ตัวอย่างเช่นงานวิจัยที่ค้นพบว่าผู้ที่ใช้วิธีนี้สามารถลดปริมาณไขมันในร่างกายลงได้อย่างรวดเร็วและค่อยทำให้น้ำหนักลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่ลดน้ำหนักด้วยการลดปริมาณการบริโภคเเคลอรี่แบบเก่า
นอกจากนี้นักวิจัยยังเเสดงให้เห็นว่าการลดน้ำหนักด้วยการอดอาหารมีประโยชน์ต่อการจัดการกับโรคที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการเผาผลาญเเละโรคเบาหวาน ช่วยป้องกันการทำงานผิดปกติของระบบประสาทและช่วยทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วย
ผลข้างเคียง
สำหรับผู้ที่ทานอาหารที่มีประโยชน์ การลดน้ำหนักด้วยวิธี intermittent fasting มีผลข้างเคียงที่น้อยมาก
สำหรับผู้ที่เริ่มต้นอดอาหารอาจเกิดความรู้สึกที่ต้องจัดการกับสภาพร่างกายเเละจิตใจซึ่งหลังจากที่พวกเขาสามารถจัดการได้เเล้วร่างกายเเละจิตใจของผู้คนส่วนใหญ่สามารถกลับไปทำงานได้อย่างปกติ
อย่างไรก็ตามผู้ที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาเเพทย์ก่อนเริ่มต้นลดน้ำหนักด้วยการอดอาหาร โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงจากการอดอาหารซึ่งเป็นผู้ต้องได้รับการดูเเลจากเเพทย์เป็นพิเศษได้แก่
- ผู้หญิงที่กำลังให้นมบุตร
- ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์
- ผู้ที่พยายามตั้งครรภ์
- ผู้ป่วยโรคเบาหวาน
- ผู้ที่มีควรผิดปกติเกี่ยวกับระดับน้ำตาล
- ผู้ที่มีความดันเลือดต่ำ
- ผู้ที่กำลังใช้ยาเพื่อรักษาโรค
- ผู้ที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับการทานอาหาร
- ผู้ที่มีน้ำหนักต่ำกว่ามาตรฐาน
ประสิทธิภาพของการออกกำลังกาย

สำหรับผู้ที่มีสุขภาพดีการลดน้ำหนักแบบ intermittent fasting ไม่ส่งผลกระทบกับการออกกำลังกายในช่วงระหว่างที่ร่างกายกำลังปรับตัวกับตารางการทานอาหารแบบใหม่ซึ่งหลังจากผ่านช่วงการปรับตัวเเล้วผู้ที่ลดน้ำหนักด้วยวิธีนี้จะไม่รู้สึกเจ็บป่วยหรือเกิดผลกระทบใดๆกับกิจวัตรการออกกำลังกายของพวกเขาเลย
สำหรับผู้ที่มีความกังวลเกี่ยวกับการสูญเสียกล้ามเนื้อในระหว่างที่ทำการอดอาหาร พวกเขาควรมั่นใจว่าได้บริโภคโปรตีนในปริมาณที่เพียงพอและได้ออกกำลังกายด้วยการใช้เเรงต้านเป็นประจำ การทานโปรตีนที่เพียงพอจะทำให้ไม่เกิดการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อในระหว่างการอดอาหาร
บทสรุป
การอดอาหารเป็นธรรมชาติที่เกิดขึ้นในวงจรชีวิตของมนุษย์ โดยผู้คนส่วนใหญ่เคยอดอาหารเช้า กลางวันหรือเย็นแบบไม่รู้ตัวดังนั้นสูตรการอดอาหารที่ได้ถูกออกแบบขึ้นมากนี้อากเป็นประโยชน์กับบางคนที่ต้องการลดน้ำหนัก
อย่างไรก็ตามสิ่งที่สำคัญคือไม่ควรทานอาหารเพื่อเป็นการทดเเทนมื้ออาหารที่ได้อดไป ผู้ที่ลดน้ำหนักด้วยวิธีนี้ควรรักษาการทานอาหารให้สมดุลกันโดยเน้นการทานอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน ไฟเบอร์และผักผลไม้นอกจากนี้ควรดื่มน้ำให้มากๆด้วย
สุดท้ายนี้เเม้ว่าโดยเฉลี่ยเเล้วผู้ที่ลดน้ำหนักด้วยวิธีอดอาหารไม่เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับผลข้างเคียหรือมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นน้อยมากแต่ผู้ที่มีโรคประจำตัวควรระมัดระวังเเละปรึกษาแพทย์ก่อนในวิธีนี้เป็นลดน้ำหนัก
แหล่งข้อมูล: https://www.healthline.com/nutrition/intermittent-fasting-and-weight-loss#section4
แหล่งข้อมูล: https://www.medicalnewstoday.com/articles/324882#summary
ความคิดเห็น: 0